นายก อบต.ขนงพระ อ.ปากช่อง หนี…ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตสนง.อัยการสูงสุดเตรียมสั่ง ปปช.ตามควบคุมตัวส่งฟ้องศาล หลังกำหนดเส้นตายวันสุดท้ายวันนี้ ขณะที่ชาวบ้าน กว่า 50 คน เดินทางไกลมาตามคดีถึงสุรินทร์ หลังคดีไม่คืบมา 9 ปี ดีใจที่ยังมองเห็นความยุติธรรม
วันที่ 17 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 น.กลุ่มชาวบ้านจากหลายหมู่บ้าน ของตำบลขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กว่า 50 คน รวมตัวกันเดินทางมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีที่ นายแหวน พุทธิศา นายก อบต.ขนงพระ อ.ปากช่อง ถูกคณะกรรมการ ปปช.ได้มีมติชี้มูลความผิด พร้อมกับพวก เมื่อต้นปี 67 ที่ผ่านมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ว่าเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาที่ทำกับ อบต.ในการเอื้อประโยชน์ให้กับเครือญาติและเอกชนจำนวน 6 โครงการ มูลค่าหลายล้านบาท แต่เรื่องก็เงียบหายไป ตั้งแต่ปี 2555 ต่อมา นายแหวนฯได้กลับมาลงสมัครรับเลือกตั้ง และมีคะแนนชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่กลับยังทำงานได้ปกติ ไม่ถูกสั่งให้พ้นและขาดคุณสมบัติรับเลือกตั้ง จนชาวบ้านต่างสงสัย ก่อนที่เมื่อวันที่ 5 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้รวมตัวกันไปติดตามข้อเท็จจริงกับทาง ปปช.จังหวัดนครราชสีมา และได้รับคำตอบว่า ขั้นตอนที่จะไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อนั้น ต้องขึ้นอยู่กับทางนายอำเภอและทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนสั่งดำเนินการ จากนั้น ปปช.นครราชสีมา ได้นำเอกสารพยานหลักฐาน ส่งไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อทำการส่งสำนวนฟ้องให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ดำเนินคดี อยู่ในระหว่างขั้นตอนของศาลดังกล่าว
ซึ่งวันนี้ เป็นวันสุดท้ายที่สำนักงานอัยการสูงสุด กำหนดให้ นายแหวนฯจะต้องเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 หลังจากก่อนหน้านี้ นายแหวนฯได้เคยยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมและขอเลื่อนการมารับทราบข้อกล่าวหากับ สนง.อัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 4 พ.ย.67 มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งพบว่าวันนี้ (17 ธ.ค.67) ตลอดทั้งวันและจนถึงเวลา 15.00 น.ซึ่งหมดเวลารับเรื่องของศาลฯ นายแหวนฯ ไม่ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 แต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้ สนง.อัยการสุงสุด ก็จะได้มีการทำหนังสือแจ้งให้ ปปช.ดำเนินการติดตามควบคุมตัว นายแหวนฯมาส่งฟ้องต่อศาลตามขั้นตอนต่อไป
ถูกนายสนั่น หลุยจันทึก อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/3 บ.ขนงพระใต้ ถนนโยธาธิการนครราชสีมา 2049 ต.ขนงพระฯ ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ตนและชาวบ้าน มาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามคดีทุจริตของนายกคนดังกล่าว หลังจากทราบว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่สำนักงานอัยการได้มีหนังสือให้มารับทราบข้อกล่าวหา และชาวบ้านอยากทราบผลการดำเนินการในเรื่องนี้ หลังจาก ปปช.ได้ชี้มูลความผิด ของนายกคนนี้แล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ชาวบ้านก็รอว่าเมื่อไหร่คนที่ทุจริตโครงการต่างๆนั้นจะได้รับโทษ มารับทราบข้อกล่าวหา เรื่องนี้มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 56 เรื่องรับเหมาโครงการต่างๆของ อบต.จนปี 58 ปปช.ได้สอบสวนไต่สวนทราบว่ามีมูล จนต้นปี 67 จึงชี้มูลความผิด เป็นเรื่องที่ชาวบ้านในหลายหมู่บ้านสงสัยว่าทำไมเรื่องถึงได้ล่าช้า วันนี้ชาวบ้านจึงอยากมาทราบมาเห็นด้วยตา นอกจากมีคดีทุจริตกับ อบต.แล้ว ก็ยังมีเรื่องที่อยู่ในกระบวนการ คือเรื่องซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งมีหลักฐานของพยานที่ให้กับ กกต.ไปแล้ว ชาวบ้านบ้านเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งเรื่องบุกรุกที่สาธารณะซึ่งอยู่ในสำนวนการไต่สวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
นางปฏิญญา เพชรมาศ (เสื้อสีเหลือง) อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 3 ต.ขนงพระ อ.ปากช่องกล่าวว่า วันนี้ตัวแทนชาวบ้านจาก 9 หมู่บ้านเดินทางมา จริงๆแล้วมีทั้งหมด 15 หมู่บ้าน แต่ด้วยค่าใช้จ่ายการเดินทางที่ยากลำบากจึงมาได้แค่นี้ เพราะต้องหาค่ารถกันเอง ชาวบ้านอยากทราบว่าคดีนี้ยืดเยื้อมา 9 ปีแล้ว ชาวบ้านอยากได้รับความยุติธรรม
นางอุไรวรรณ เสาพะเนา (เสื้อกันหนาวสีเขียว) อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 14 ต.ขนงพระกล่าวว่า ตั้งแต่บุคคลดังกล่าวมาเป็นนายก อบต.ชาวบ้านที่เป็นพยานในคดีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงให้ กกต.หลายคนก็ถูกข่มขู่ และถูกอุ้มไปขู่ก็มี ซึ่งผู้เสียหายก็ได้มีการแจ้งความไว้แล้ว และลูกน้องของเขาก็ยังไปพูดว่า ลูกพี่เขามีเงิน ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ เขาทำอะไรก็ได้
นางสุพัตรา ศรีพิมาย (เสื้อคลุมสีดำ) อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 2 ต.ขนงพระฯกล่าวว่า นายกคนดังกล่าว หลังจากชนะการเลือกตั้ง กกต.ใช้ระยะเวลาแค่ 5 วันทำการในการรับรองการเลือกตั้ง ชาวบ้านเกิดความสงสัยทำไมถึงรับรองเร็ว อีกอย่าง อยากให้ตรวจสอบเรื่องจริยธรรมของนายกคนนี้ เพราะตั้งแต่ได้เป็นนายก ก็มีการปลดพนักงานออกถึง 30 กว่าราย ซึ่งพนักงานที่ปลดออกมีผลกระทบต่อครอบครัว บางคนเป็นหัวหน้าหัวหลักของครอบครัว อยากรู้ว่าจริยธรรมตรงนี้มีบ้างไหม
นางขนิษฐา ทุมจันทึก (เสื้อดำ ใส่หมวก) อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 1 ต.ขนงพระฯ กล่าวว่า ตนก็เป็นพยานในเรื่องที่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงให้กับ กกต.ที่ลงมาสอบสวน ก็มีการให้หัวคะแนนมาข่มขู่ตนเอง ตนก็กลัว ทุกวันนี้ยังต้องให้ตำรวจไปคุ้มครองพยาน การใช้ชีวิตประจำวัน ก็หวาดกลัว กลางคืนไม่กล้าออกไปไหน ที่บ้านมีแต่ผู้หญิงสามคน นายกคนนี้มีอิทธิพลพอสมควร ยังไงก็ไม่อยากให้ประกันตัว จนกว่าคดีจะสิ้นสุด